--- PAGE 1 --- ( คำพิพากษา (อุทธรณ์) สําเนาถูกต้อง Onts L. A พนักงานปกครองป 2 : สี.ค. 2555 ระหว่าง (ต. ๒๒) คดีหมายเลขดำที่ อ. ๕๔๓/๒๕๔๙ คดีหมายเลขแดงที่ อ. 9 ๒๕๕๕ ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ศาลปกครองสูงสุด วันที่ ๑๖ เดือน มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ บริษัท อเมริกัน แสตนดาร์ด แอ๊พเพรซัล จำกัด ผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา) ผู้ฟ้องคดียื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ๗๓๑/๒๕๔๔ หมายเลขแดงที่ ๔๒๖/๒๕๔๙ ของศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) ซึ่งเป็นคดี ที่โอนมาจากเรื่องที่ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ตามมาตรา ๑๐๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์เคยให้ความเห็นชอบให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ต่อมา สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้มีคำสั่ง ที่ กลต. จ.๑๙๒๘/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ เป็นต้นไป จนกว่าจะครบอายุการให้ความเห็นชอบ และกำหนดเงื่อนไขว่าผู้ฟ้องคดีจะสามารถยื่นคำขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในคราวต่อไปได้ ต่อเมื่อผลการพิจารณาดำเนินคดีทุกคดี ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุ เป็นอันสิ้นสุด.... --- PAGE 2 --- เป็นอันสิ้นสุดว่าผู้ฟ้องคดีมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามข้อกล่าวหาแล้ว โดยสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อ้างเหตุผลว่า ผู้ฟ้องคดีถูกพนักงานอัยการ ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมในข้อหาสนับสนุนหรือร่วมกันยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ อุทธรณ์คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดี โดยโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัญญัติว่า ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดง ว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ นอกจากนี้ ยังได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้มีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพ และแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม กรณีที่ผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินคดีอาญา ผู้ฟ้องคดีได้ต่อสู้คดี และให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน และในชั้นพิจารณาคดีของศาล ซึ่งศาลชั้นต้นยังมิได้ตัดสินว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจึงเป็นคำสั่ง ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ฟ้องคดีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ทั้งนี้ การประเมินราคาทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดี ได้กระทำไปตามหลักวิชาที่ยอมรับเป็นสากลทั่วโลก เป็นการกระทำตามวัตถุประสงค์ของ ผู้ฟ้องคดีโดยสุจริต ในทางสืบสวนและสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ ไม่เคยมีหลักฐานว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับผลตอบแทนในทางทุจริต นอกจากค่าธรรมเนียมประเมินราคาตามปกติ กรณี กล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีประเมินราคาหลักประกันที่นำมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ จากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) สูงกว่าราคาประเมินปกติโดยเทียบเคียง กับบริษัทอื่นซึ่งทำการประเมินภายหลังจากผู้ฟ้องคดีได้ทำรายงานการประเมินไว้แล้วถึง ๒ ปีเศษ และนำเอาราคาประเมินกลางของสำนักงานที่ดินที่ใช้ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจด ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมาเทียบเคียง โดยที่ราคาประเมินกลางดังกล่าวไม่สามารถนำมา เปรียบเทียบหรือเทียบเคียงกับราคาการประเมินราคาทรัพย์สินในชิ้นงานเดียวกันได้เพราะขัด ต่อหลักวิชาการประเมินราคาทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินต่างวัน เวลา ย่อมมีความ เปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ ผู้ฟ้องคดี ได้มีหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีว่า ได้ปฏิบัติงาน เป็นไปตามมาตรฐานที่ยอมรับเป็นสากลทั่วโลก ผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาคำอุทธรณ์ของ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุน /ผู้ฟ้องคดี... --- PAGE 3 --- ๓ ผู้ฟ้องคดีแล้วมีมติยืนตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ามติของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีผลเป็นการตัดสิทธิและโอกาสในการประกอบอาชีพของผู้ฟ้องคดี ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืน ตามคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีหลักเกณฑ์และวิธีการในการให้ความเห็นชอบ เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินและการสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจหน้าที่ วางนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาตลาดทุน ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินการต่างๆ ในตลาดทุน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีมาตรการที่เพียงพอเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของสาธารณชน ที่ลงทุนในตลาดทุน โดยในส่วนที่เกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน ผู้ถูกฟ้องคดี มีหน้าที่กำกับดูแลให้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน เป็นข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ไม่มีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในสาระสำคัญหรือปกปิดข้อมูล อันเป็นสาระสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนในตลาดทุนอาจไม่มีโอกาสหรือความพร้อม ในการตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ตลอดจนไม่มีความรู้ความสามารถใน การประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ลงทุนต้องอาศัยพึ่งพิงงานที่ผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้ตรวจสอบ และจัดทำ และนำมาเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจซื้อขายหรือถือหลักทรัพย์ของบริษัทที่ออก หลักทรัพย์นั้น การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพจึงมีความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจ ของผู้ลงทุน ผู้ถูกฟ้องคดีต้องกำหนดกลไกเพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนว่างานของผู้ประกอบวิชาชีพนั้น ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานทางวิชาชีพด้วยความเป็นกลาง และจัดทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่มี จรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบต่อสาธารณชน ตลอดจนไม่มีพฤติกรรมหรือลักษณะที่อาจ นำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นของสาธารณชนในตัวผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบ ผู้ประกอบวิชาชีพเป็นมาตรการในเชิงป้องกันที่ส่งผลดีกว่ามาตรการในทางเยียวยาหลังจาก เกิดผลเสียหายต่อผู้ลงทุนในตลาดทุนแล้ว ดังนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓๕ มาตรา ๕๖ มาตรา ๖๙ มาตรา ๗๐ และมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงออกข้อกำหนดบังคับไว้สำหรับการเปิดเผยข้อมูลในเอกสาร คือ (๑) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. ๑๓/๒๕๓๙ ศาลปกครองสูงสุด 16 ธ.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุด เรื่อง การยื่น... --- PAGE 4 --- ๔ } เรื่อง การยื่นและการยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๓๙ กำหนดว่า ในการแสดงทรัพย์สินประเภทที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสัญญาเช่าระยะยาวของบริษัทและบริษัทย่อย ให้ผู้เสนอขายหลักทรัพย์แสดงราคาประเมิน ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (๒) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. ๔๐/๒๕๔๐ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการ ดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ กำหนดว่า ในการแสดงสินทรัพย์ประเภทที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสัญญาเช่าระยะยาวของบริษัท และบริษัทย่อย ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์แสดงราคาประเมินในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี ซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (๓) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. ๑๓/๒๕๓๗ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาตและการอนุญาตให้ เสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ลงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๓๗ กำหนดว่า ทรัพย์สินที่นำมาเป็น หลักประกันสำหรับการขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน หากเป็นที่ดิน อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ต้องประเมินราคาโดยผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ได้มีประกาศ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ กำหนดแนวปฏิบัติในการให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นผู้ประเมิน ราคาทรัพย์สิน มีหลักเกณฑ์โดยสรุปดังนี้ (๑) ผู้ขอรับความเห็นชอบต้องเป็นผู้มีความสามารถ หรือประสบการณ์ในการประเมินราคาทรัพย์สิน มีฐานะเป็นสมาชิกของสมาคมวิชาชีพ ด้านการประเมินราคาทรัพย์สิน มีมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ และมีการปฏิบัติงาน ประเมินราคาทรัพย์สินตามมาตรฐานวิชาชีพ (๒) ผู้ขอรับความเห็นชอบต้องเป็นบุคคลที่มี ความซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรม และปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ประเมินราคาทรัพย์สินด้วยความระมัดระวัง และรักษาจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพเยี่ยงผู้มีวิชาชีพจะพึงกระทำในกิจการเช่นว่านั้น และต้องไม่มีข้อเท็จจริงที่อาจทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ ซึ่งเป็นงานที่สาธารณชนพึ่งพิง ด้วยความไว้วางใจ ซึ่งหมายถึงต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามร้ายแรงตามเกณฑ์ที่สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยเมื่อปรากฏเหตุว่าผู้ประเมิน ศาลปกครองสูงสุด ศาลา 16 H.A. 2555 งสูงสุด /ราคาทรัพย์สิน... --- PAGE 5 --- : ราคาทรัพย์สินรายใดที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แล้ว ไม่สามารถดำรงความพร้อมทางวิชาชีพหรือขาดความน่าเชื่อถือ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน รายดังกล่าวชี้แจงหรือส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายในเวลาอันสมควร และสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะประมวลข้อเท็จจริงทั้งหมด หากพยานหลักฐานมีน้ำหนักมากว่าผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายนั้นขาดความพร้อมหรือ ขาดความน่าเชื่อถือ ก็จะสั่งพักการให้ความเห็นชอบ แต่ถ้าพยานหลักฐานมีน้ำหนักน้อย ก็จะสั่งยุติเรื่อง โดยอาจมีหนังสือกำชับไปยังผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายนั้นเพื่อให้พิจารณา แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ในกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ถูกสั่งพักการให้ความเห็นชอบ มีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดีได้ สํานักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้ทราบว่า ผู้ฟ้องคดีมีปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินเป็นครั้งแรก เมื่อได้รับแจ้ง จากธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนสิงหาคม ๒๕๓๙ ว่า ผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาที่ดินบางราย ผิดไปจากความเป็นจริงมากโดยไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ รวมทั้งมิได้ให้ความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ตัดชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อ บริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ ซึ่งสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเข้าใจว่าเป็นเพียงปัญหาความบกพร่องของระบบควบคุมภายในของผู้ฟ้องคดี จึงยังคงให้ ความเห็นชอบให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินต่อไป และได้กำชับให้ผู้ฟ้องคดี แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ผู้ฟ้องคดีถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้อง เป็นจำเลยในคดีอาญา ข้อหาสนับสนุนผู้อื่นกระทำการยักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) และในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ผู้ฟ้องคดีถูกฟ้องเป็นจำเลยอีกคดีหนึ่ง ในข้อหาเดียวกัน โดยเหตุแห่งการฟ้องคดีของพนักงานอัยการ สืบเนื่องมาจากการที่ผู้ฟ้องคดี ได้ทำการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์หลายรายการให้แก่ลูกค้าซึ่งต่อมาถูกนำไปใช้ เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อจากธนาคารดังกล่าวโดยทุจริต สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จึงแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสำนักงานฯ ผู้ฟ้องคดี ได้ชี้แจงสรุปความได้ว่า ผู้ฟ้องคดีทำการประเมินราคาที่ดินรายการที่เป็นปัญหาให้แก่ผู้ว่าจ้าง ศาลปกครองสูงสุด 1 6 ส.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุ โดยเข้าใจว่า... --- PAGE 6 --- โดยเข้าใจว่าเป็นการประเมินราคาเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในกิจการภายในของผู้ว่าจ้าง ซึ่งประสงค์จะเข้าไปรวบรวมซื้อที่ดินจากรายย่อยเป็นที่ดินแปลงใหญ่ แต่บุคคลอื่นนำรายงาน ดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อจากธนาคาร และผู้ฟ้องคดีเคยให้ถ้อยคำ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า เนื่องจากการประเมิน ดังกล่าวเป็นการกระทำโดยเร่งด่วนตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง วิธีการที่ผู้ฟ้องคดี ใช้ในการประเมินจึงเพียงแต่สอบถามราคาซื้อขายที่ดินบริเวณใกล้เคียง โดยมิได้สอบถามราคา ประเมินของทางราชการ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การประเมินราคาทรัพย์สินไม่ว่าจะจัดทำ เพื่อวัตถุประสงค์ใด ผู้ฟ้องคดีควรใช้มาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินในลักษณะที่ไม่แตกต่างกัน ตลอดจนผู้ฟ้องคดีต้องควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประเมินราคาหลักทรัพย์ให้เป็นไป ตามมาตรฐาน โดยมาตรฐานส่วนที่กล่าวถึงคือการตรวจสอบและเสาะหาข้อมูลซื้อขายที่ดิน ซึ่งกำหนดให้มีการสอบถามราคาประเมินของทางราชการเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ เพื่อหามูลค่าทรัพย์สิน นอกจากนี้ การที่ผู้ฟ้องคดีได้ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล ในข้อหาร่วมกับบุคคลอื่นยักยอกทรัพย์ธนาคารรวมทั้งสิ้น ๒ คดี แสดงว่าพนักงานอัยการ อาจมีข้อมูลหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าผู้ฟ้องคดีมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามที่ ซึ่งผู้ฟ้องคดีอาจถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ความผิดพลาด ถูกกล่าวหา ประกอบกับยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการอีก 4 คดี ในลักษณะดังกล่าวที่เกิดขึ้นซ้ำซากจึงอาจมิใช่เป็นเรื่องการมีระบบการควบคุมภายในที่ไม่รัดกุม แต่ผู้ฟ้องคดีอาจมีส่วนร่วมในการทุจริตยักยอกทรัพย์ของสถาบันการเงิน โดยใช้วิชาชีพ อันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน จึงเป็นเหตุให้พิจารณาได้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นลักษณะร้ายแรง ที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ และไม่เหมาะสมในการเป็นผู้บริหารในบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินและเป็นผู้ประเมิน ราคาหลักทรัพย์ในการลงลายมือชื่อในรายงานการประเมินราคาทรัพย์สิน สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จึงมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ จนสิ้นสุด ระยะเวลาการให้ความเห็นชอบคือวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ และได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้ผู้ฟ้องคดีทราบ ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาคำอุทธรณ์ดังกล่าวแล้วมีมติ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ยืนยันตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ และได้แจ้งมติดังกล่าวให้ผู้ฟ้องคดีทราบเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเกณฑ์การ... --- PAGE 7 --- ๗ ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตามข้อ ๓ ของประกาศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบ ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ กำหนดว่า ผู้ได้รับ ความเห็นชอบต้องไม่มีพฤติกรรมที่ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์พิจารณาได้ว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้บริหาร หรือผู้ประเมินราคาหลักทรัพย์ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสาธารณชน การพิจารณาว่าพฤติกรรม อย่างใดที่เห็นได้ว่าถึงขนาดไม่เหมาะสมนั้น เป็นเรื่องของการใช้ดุลพินิจพิจารณาจาก ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในแต่ละเรื่องเป็นรายกรณี โดยการพิจารณามิได้ถูกจำกัดอยู่ เฉพาะประวัติการกระทำความผิด ซึ่งการสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคา ทรัพย์สินมิใช่เป็นการตัดสินว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดในเรื่องที่ถูกฟ้องร้อง แต่เป็นเรื่องที่ ผู้ฟ้องคดีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ถูกฟ้องคดีจึงเห็นว่า คำสั่ง พักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า โดยทั่วไปราคาตลาดกับราคาประเมินของทางราชการ จะไม่แตกต่างกันมากจนถึงขนาด ๑๐ เท่า โดยมีข้อมูลในอดีตที่แสดงว่า โดยเฉลี่ยแล้วราคาตลาด จะสูงกว่าราคาประเมินของทางราชการประมาณอัตราร้อยละ ๓๕ และราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๙ ยังเป็นช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ ราคาประเมินของบริษัทอื่น ที่นำมาเปรียบเทียบก็เป็นการรวบรวมที่ดินแปลงย่อยเป็นที่ดินแปลงใหญ่เช่นเดียวกัน ประกอบกับการที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ฟ้องคดีเป็นจำเลยในคดีอาญา ทำให้พิจารณาได้ว่า พนักงานอัยการก็เห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลเพียงพอเช่นกัน สำหรับคำชี้แจงเพิ่มเติมของ ผู้ฟ้องคดีเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีพิจารณาแล้วเห็นว่า มิใช่ข้อมูล หรือหลักฐานที่แสดงได้ว่าผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติงานในกรณีที่เป็นสาเหตุของคดีตามหลักการ ดังกล่าวจริง ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีมติยืนตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ องค์ประกอบในการพิจารณาสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ แตกต่างจากองค์ประกอบการพิจารณาความผิดในทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ โดยการสั่งพัก การให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นการพิจารณาในทางปกครองที่แยกได้ เป็นอิสระจากการพิจารณาความผิดทางอาญา และสามารถกระทำได้โดยไม่จำต้องรอให้ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /คดีอาญา... --- PAGE 8 --- คดีอาญาถึงที่สุด อีกทั้งผลการพิจารณาในทางปกครองก็สามารถแตกต่างจากผลการพิจารณา ในคดีอาญาได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาตัดสินว่าผู้ประกอบวิชาชีพรายใด กระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพย์โดยอาศัยงานในวิชาชีพของตน ผลทางคดีในลักษณะดังกล่าว ย่อมมีน้ำหนักอย่างมากต่อการพิจารณาว่าผู้ประกอบวิชาชีพรายนั้นขาดความเหมาะสม ที่จะปฏิบัติงานในวิชาชีพที่สาธารณชนอาศัยพึ่งพิงด้วยความไว้วางใจ แต่ก็มิได้หมายความว่า ถ้าคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลยในคดีอาญา จะเป็นการรับรองว่าผู้ประกอบวิชาชีพรายนั้น ยังมีความเหมาะสมในการให้บริการทางวิชาชีพต่อไป เนื่องจากองค์ประกอบการพิจารณา สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแตกต่างจากองค์ประกอบความผิดทางอาญา และไม่มีขั้นตอนใดของการพิจารณาที่ผู้ถูกฟ้องคดีก้าวล่วงไปสันนิษฐานว่าผู้ฟ้องคดี เป็นผู้กระทำผิดทางอาญาแล้ว หรือปฏิบัติต่อผู้ฟ้องคดีเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดทางอาญา และการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีมิได้ละเมิดสิทธิของผู้ฟ้องคดีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้มีเสรีภาพในการประกอบกิจการ หรือประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม โดยเห็นว่า มาตรการให้ความ เห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สินกำหนดขึ้นเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แห่งพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในการรักษาความเชื่อมั่นของการลงทุนในตลาด และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มิใช่เป็นกฎเกณฑ์ที่จำกัด หรือห้ามการประกอบวิชาชีพของบุคคลใด ๆ ประชาชนทุกคนยังมีอิสระในการประกอบวิชาชีพ เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานฯ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจำนวนมากที่สามารถให้บริการทางวิชาชีพแก่บุคคลทั่วไปได้ โดยไม่เคยต้องขอรับความเห็นชอบจากสำนักงานฯ แต่ประการใด สําหรับราคาประเมินของ ทางราชการเป็นข้อมูลที่เผยแพร่เป็นการทั่วไปต่อสาธารณชน ราคาประเมินของทางราชการ จึงเป็นข้อมูลอ้างอิง (Benchmark) ที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรมในกรณีอื่น ๆ และเมื่อราคาประเมินรายการใดมีความแตกต่าง จากราคาประเมินของทางราชการอย่างมาก หน้าที่ในการอธิบายอย่างสมเหตุสมผล ถึงที่มาของการกำหนดราคาดังกล่าวย่อมตกอยู่แก่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ในกรณีดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีชี้แจงว่าการประเมินราคาไว้สูงกว่าราคา ของทางราชการเป็นผลของการรวบรวมที่ดินแปลงย่อยหลายแปลงเป็นที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งทำให้ที่ดินดังกล่าวมีทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ ทำให้ราคาประเมินสูงขึ้น ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดี ศาลปกครองสูงสุด 1 6 พ.ค. 2555 ซาลปกครองสูงสุด เห็นว่า... --- PAGE 9 --- เห็นว่า การรวบรวมที่ดินแปลงย่อยเป็นที่ดินแปลงใหญ่เพียงเหตุเดียวไม่มีน้ำหนัก เพียงพอที่จะทำให้ที่ดินดังกล่าวมีราคาสูงกว่าราคาประเมินของทางราชการถึงสิบเท่า ทั้งนี้ เพราะในการประเมินราคาที่ดินแปลงเดียวกันนั้นโดยผู้ประเมินราคาอิสระอีกสองราย ซึ่งทำการประเมินราคาที่ดินแปลงดังกล่าวในลักษณะที่ดินแปลงใหญ่เช่นเดียวกัน ผู้ประเมินราคาทั้งสองรายดังกล่าว ล้วนกำหนดราคาประเมินไว้ต่ำกว่าราคาประเมิน ของผู้ฟ้องคดีอยู่ประมาณแปดถึงสิบสี่เท่า แม้ผู้ฟ้องคดีจะโต้แย้งว่าราคาประเมินของผู้ประเมิน อิสระรายอื่นที่ทำการประเมินในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นการประเมินที่จัดทำหลังการประเมินของ ผู้ฟ้องคดี ๒ ปีเศษ จึงมิใช่ราคาที่สามารถนำมาใช้ในการเปรียบเทียบได้ แต่เนื่องจากระหว่าง ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๙ ราคาตลาดของที่ดินยังเป็นช่วงขาขึ้น โดยราคาตลาด ของที่ดินเริ่มมีแนวโน้มลดลงในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ประกอบกับเชื่อได้ว่าราคาตลาดของที่ดิน ในแต่ละช่วงเวลาได้ซึมซับผลกระทบจากสภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไว้แล้ว ดังนั้น การประเมินราคาที่ดินที่กระทำในภายหลังแต่กระทำในระหว่างที่ราคาตลาดของที่ดิน ยังเป็นช่วงขาขึ้นจึงน่าจะมีราคาสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับราคาประเมินที่กระทำในอดีต มิใช่ต่ำ กว่าราคาประเมินในอดีตถึงประมาณแปดถึงสิบสี่เท่าดังกล่าว นอกจากนี้ มีผู้รวบรวมข้อมูลการ เปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ และสุ่มตัวอย่างสำรวจราคาที่ดินในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๑ ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์จะสูงกว่าราคาประเมินของทางราชการประมาณอัตราร้อยละ ๓๕ ก็น่าจะเข้าใจได้ว่าโดยทั่วไปราคาที่ดินในจังหวัดอื่นย่อมไม่น่าจะมีอัตราสูงกว่าราคาประเมิน ของทางราชการได้ถึงสิบเท่า นอกจากนี้ ผู้ฟ้องคดีได้เคยทำคำชี้แจงต่อผู้ถูกฟ้องคดีตามหนังสือ ลับเฉพาะ ที่ ASA 00-๑๐๐๓ ฉบับลงวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๔๓ ให้เหตุผลอธิบายสนับสนุนราคา ประเมินของผู้ฟ้องคดีที่สูงกว่าราคาอื่นที่ถูกใช้ในการเปรียบเทียบว่า เป็นผลของการรวบรวมที่ดิน แปลงย่อยเป็นที่ดินแปลงใหญ่ แต่ตามหนังสือลับเฉพาะ ที่ ASA ๙๙-๑๑๒๖ ฉบับลงวันที่ ๑๕ ที่ ตุลาคม ๒๕๔๒ ระบุว่าที่ดินทุกแปลงที่ผู้ฟ้องคดีทำการประเมินราคา เป็นการประเมินราคา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกิจการภายในของลูกค้าที่จะเข้าไปรวบรวมซื้อที่ดินจากรายย่อยเป็น ที่ดินแปลงใหญ่ โดยเป็นการซื้อจากเจ้าของทรัพย์สินซึ่งเป็นบุคคลรายย่อย ซึ่งหากในขณะที่ ทำการประเมินราคานั้นที่ดินดังกล่าวยังคงเป็นที่ดินแปลงย่อยที่มีเจ้าของต่างรายกัน และการประเมินราคาเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมซื้อที่ดินแปลงย่อยจากเจ้าของ แต่ละราย ราคาที่ประเมินก็ควรสะท้อนราคาของที่ดินแปลงย่อยแต่ละแปลงนั้น มิใช่ราคา ของที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังการรวบรวมซื้อเป็นเจ้าของรายเดียวแล้ว นอกจากนั้น ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด การที่... --- PAGE 10 --- การที่ผู้ฟ้องคดีเคยชี้แจงว่าผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาที่ดินในกรณีดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง ทำให้มิได้มีการตรวจสอบราคาประเมินของทางราชการ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดี กลับเป็นข้อมูลที่แสดงว่าผู้ฟ้องคดีมิได้เคร่งครัด ต่อการปฏิบัติงานประเมินราคาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่อย่างใด และที่ผู้ฟ้องคดีชี้แจงว่า ผู้ฟ้องคดีทำงานประเมินราคาทรัพย์สินรายการที่ เป็นปัญหาโดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ว่าจ้างใช้ในกิจการภายในของผู้ว่าจ้าง ผู้ฟ้องคดีไม่ทราบว่า รายงานการประเมินราคาที่ดินดังกล่าวถูกนำไปใช้ประกอบการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า ในการประเมินราคาทรัพย์สินรายการใด ๆ ไม่ว่ารายงานการประเมินนั้น จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ใด ผู้ประเมินราคาก็ต้องจัดทำงานประเมินนั้นด้วยมาตรฐานที่ดีอย่าง เดียวกัน ดังนั้น วัตถุประสงค์ของการใช้งานประเมินดังกล่าวจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อโต้แย้ง ในเรื่องนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การที่ผู้ฟ้องคดีไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมเหตุผลถึง การประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ในมูลค่าที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากราคาประเมิน ของทางราชการเท่ากับไม่มีน้ำหนักในการรับรองว่าผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐาน ทางวิชาชีพตามที่กล่าวอ้างได้จริง ประกอบกับการที่ผู้ฟ้องคดีถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้อง เป็นจำเลยในคดีอาญาจำนวนหลายคดี ล้วนนำไปสู่การขาดความน่าเชื่อถือในรายงานที่จัดทำ โดยผู้ฟ้องคดีและการขาดความน่าเชื่อถือและไว้วางใจในตัวผู้ฟ้องคดีเองด้วย พฤติการณ์ ในเรื่องนี้จึงมีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งในนามบริษัทและโดยส่วนตัว ขาดความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตามข้อ ๓ ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ สำหรับประวัติของผู้ฟ้องคดีนั้น ผู้ฟ้องคดีเคยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๓๘ ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๓๙ ครั้งที่สองเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๐ ถึงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๑ ครั้งที่สามเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ២២ มกราคม ๒๕๔๒ และครั้งที่สี่เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ ถึงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ สํานักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้มีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ จนถึงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ศาลปกครองสูงสุด 1 6 ส.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /ผู้ฟ้องคดี... --- PAGE 11 --- ๑๑ ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่า นับแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) กรณีมีพฤติการณ์ร่วมกันยักยอกเงินของธนาคารดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เคยตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินดังที่ผู้ถูกฟ้องคดี กล่าวอ้าง โดยเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตระยะหนึ่งแล้วเห็นชอบให้เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) โดยมิได้แจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด ทั้งยังมีความเห็นว่า มีการนำรายงานการประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ไม่ได้จัดทำเพื่อการขอสินเชื่อธนาคารไปใช้ในการขอสินเชื่อ ผู้ฟ้องคดีได้ชี้แจงแสดง หลักฐานวิธีการและขั้นตอนในการประเมินราคาทรัพย์สินต่อผู้ถูกฟ้องคดีแล้วว่า ผู้ฟ้องคดี ได้กระทำการไปโดยสุจริตอยู่บนพื้นฐานการใช้ความระมัดระวังเช่นบุคคลผู้มีวิชาชีพ เฉพาะพึงกระทำแล้ว และโต้แย้งคัดค้านตลอดมาว่า ผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถนำเอาราคา ประเมินทรัพย์สินที่ได้ประเมินในระยะเวลาห่างกันถึง ๒ ปีเศษ มาเทียบเคียงและวินิจฉัยว่า การประเมินราคาทรัพย์สินครั้งใดถูกครั้งใดผิดได้ เพราะระยะเวลาในการประเมินราคาทรัพย์สิน จะสะท้อนให้เห็นมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินในวันและเวลาประเมินราคานั้นๆ การประเมิน ราคาต่างวันเวลา มีตัวแปรที่ทำให้ราคาประเมินแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองทั้งภายในและภายนอก แม้แต่ข่าวสารบางชนิดก็อาจทำให้ราคาที่ดิน เปลี่ยนแปลงไป อาทิเช่น ข่าวโครงการต่างๆ ของรัฐบาลว่ามีแนวโน้มจะไปพัฒนาท้องถิ่นใด ทำให้ที่ดินในท้องถิ่นนั้นมีราคาสูงขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ที่ดินแปลง ที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาตั้งอยู่ติดทางหลวงหมายเลข ๓๓๔ (ถนนสุวรรณศร) ตอนกบินทร์บุรี- อรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (สระแก้ว) ซึ่งขณะผู้ฟ้องคดีทำการประเมินราคานั้น อยู่ในช่วง ที่มีการซื้อขายที่ดินมาก เนื่องมาจากรัฐบาลมีโครงการเปิดชายแดนด้านอำเภออรัญประเทศ สู่ประเทศกัมพูชา ทั้งยังประกาศเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีเหตุผลอยู่ ในตัวว่า ขณะประเมินราคานั้น ภาวะของการซื้อขายที่ดินเป็นเช่นไร การประเมินราคาที่ดิน ของผู้ฟ้องคดีได้สะท้อนมูลค่าตลาดที่แท้จริง ณ เวลาประเมินถูกต้องแล้ว การที่ผู้ถูกฟ้องคดี นำข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่มีผู้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ว่า ได้มีการสุ่มตัวอย่างสำรวจราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๑ ระบุว่า โดยเฉลี่ยราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์จะสูงกว่าราคาประเมิน ศาลปกครองสูงสุด 16 HA. 2555 ศาลปกครองสูงสุ ของทางราชการ... --- PAGE 12 --- ของทางราชการประมาณร้อยละ ๓๕ โดยผู้ถูกฟ้องคดีนำเอาข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบ กับราคาประเมินที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาที่ดินเอาไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ผู้ฟ้องคดีไม่เห็นพ้องด้วย เพราะข้อมูลตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างอิงนั้นเป็นข้อมูลที่เลื่อนลอย ไม่ได้จัดทำอยู่บนพื้นฐาน ในหลักวิชาการประเมินราคาทรัพย์สิน ข้อที่นำมาวินิจฉัยจึงไม่อาจรับฟังได้ ผู้ฟ้องคดียอมรับ ว่าเคยชี้แจงต่อผู้ถูกฟ้องคดีว่า ผู้ฟ้องคดีมิได้มีส่วนเข้าไปร่วมทุจริตกับบุคคลหนึ่งบุคคลใด ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวหา เพราะการนำหลักฐานการประเมินไปใช้เป็นหลักฐาน ในการขอสินเชื่อจากธนาคารนั้น ผู้ฟ้องคดีไม่ทราบเรื่องและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ผู้ฟ้องคดี มิได้ชี้แจงว่า การประเมินราคาทรัพย์สินต่างวัตถุประสงค์จะใช้วิธีการประเมินที่แตกต่างกัน สำหรับกรณีการใช้ดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้มีเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพหรือประกอบ วิชาชีพแข่งขันกันโดยเสรีและเป็นธรรม ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดียอมรับว่า ผู้ใช้บริการประเมินราคา ทรัพย์สินมักเลือกใช้บริการของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การที่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายใดถูก คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ จึงมีผลโดยตรงที่ผู้ใช้บริการจะนำไปเป็นข้อพิจารณาในการจ้าง คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ จึงเป็นการจำกัดเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพตามบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ แม้ผู้ฟ้องคดีจะถูกดำเนินคดีอาญา แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่อาจด่วนสรุปว่า พนักงานอัยการอาจมีหลักฐานที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้ฟ้องคดี มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดทางอาญา ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับรองไว้แล้วว่า ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าบุคคลนั้นได้กระทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหาจริง แม้ผู้ถูกฟ้องคดีจะอ้างว่า การสั่งพักการให้ความเห็นชอบการเป็น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นคำสั่งทางปกครองซึ่งไม่เหมือนกับองค์ประกอบของความผิด ทางอาญาก็ตาม หากผู้ถูกฟ้องคดีจะรอฟังผลในคดีอาญาเสียก่อน ก็จะเป็นการใช้ดุลพินิจ ที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจสั่งพักการเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินกรณี ผู้ประเมินราคาประกอบวิชาชีพโดยขาดจรรยาบรรณ ไม่สุจริต ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อสาธารณชน แต่ผู้ฟ้องคดีมิได้กระทำเหตุดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีจึงไม่มีเหตุสั่งพักการให้ความ เห็นชอบดังกล่าว สำหรับประเด็นเกี่ยวกับหลักวิชาการประเมินราคาทรัพย์สิน มูลค่าตลาดยุติธรรม ของทรัพย์สิน พิจารณาได้จากหลายๆ วิธีโดยคำนึงถึงคำจำกัดความ วัตถุประสงค์ของ การประเมินราคา ตลอดจนข้อจำกัดของการประเมินราคาแต่ละครั้ง โดยมูลค่าตลาดยุติธรรม ศาลปกครองสูงสุด 16 ส.ค. 2555 ชาลปกครองสูงสุด หมายถึง... --- PAGE 13 --- ; G ១៣ หมายถึง ราคาที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของวันที่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจน เป็นจำนวนเงินสด หรือจำนวนเงินเทียบเท่ากับเงินสด หรือจำนวนใด ๆ ที่ได้มีการระบุอย่างละเอียดสำหรับสิทธิ ของทรัพย์สินที่ได้ระบุอย่างชัดเจนที่จะขายได้หลังจากที่ได้มีการเสนอขายตามความเหมาะสม ในตลาดที่มีการแข่งขันภายใต้สภาวะจำเป็นทั้งหมด ให้ได้การขายที่ยุติธรรม โดยทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายได้มีการกระทำอย่างรอบคอบ อย่างมีความรอบรู้ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน และสมมุติฐานที่ปราศจากการบังคับอย่างไม่เหมาะสม มูลค่าบังคับขาย เป็นการกระทำ ให้เสนอและทำการโอนทรัพย์สิน สำหรับเรื่องการพิจารณาเกี่ยวกับมูลค่า กระทำภายใต้ภาวะ ของการบังคับภายในระยะเวลา และสถานที่ที่ระบุไว้อย่างชัดแจ้ง ราคาขาย คือ จำนวนเงิน จำนวนหนึ่งที่ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่าย และผู้ขายยินดีที่จะรับ ในการตกลงใจที่จะซื้อขายสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามที่ตกลงกันทั้งสองฝ่าย หากเป็นสถาบันการเงินก็จะพิจารณาปัจจัยต่างๆ และความสามารถ ของลูกค้าที่จะคืนเงินที่กู้ยืมไปเป็นหลักสำคัญ ส่วนการพิจารณาหลักประกันประกอบ ก็จะพิจารณามูลค่าบังคับขาย ซึ่งขึ้นกับอุปสงค์และอุปทาน ภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ขนาดเนื้อที่ ทำเลที่ตั้ง และอื่นๆ ในภาวะปัจจุบันจะสังเกตเห็นว่า มูลค่าบังคับขายอาจจะอยู่ ที่อัตราร้อยละ ๓๐ ถึงอัตราร้อยละ ๕๐ ของมูลค่าตลาดยุติธรรมของทรัพย์สิน การปล่อยสินเชื่อ ก็ขึ้นกับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน การที่ผู้ตัดสินใจจะซื้อทรัพย์สิน ก็จะพิจารณาหลัก ของการลงทุน การคืนทุน และแหล่งที่มาของเงินทุนของแต่ละราย ซึ่งขึ้นกับข้อจำกัดของ แต่ละรายไป การพิจารณามูลค่าตลาดยุติธรรม เป็นเพียงส่วนประกอบการตัดสินใจภายใต้ ข้อจำกัดนั้นๆ ผู้ที่จะตัดสินใจพิจารณาใช้ราคาประเมินของทรัพย์สินใด ก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัด ของการประเมินในแต่ละครั้ง ไม่สามารถนำไปใช้ได้ทุกกรณีตามที่กล่าวอ้าง ผู้ถูกฟ้องคดีให้การเพิ่มเติมว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้รับหนังสือจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ก. ๒๐๘๘/๒๕๓๙ ลงวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๓๙ แจ้งว่า เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาที่ดิน บางรายผิดความเป็นจริงมาก โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผล รวมทั้งมิได้ให้ความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ตัดชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อ บริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ จนกว่าธนาคารแห่งประเทศไทย จะแจ้งเป็นอย่างอื่น โดยหลังจากมีหนังสือของธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว ก็ไม่ปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เคยแจ้งความเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าวไปยังผู้ถูกฟ้องคดีอีก จึงถือว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเคยมีคำสั่งตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อบริษัท ประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สิน ศาลปกครองสูงสุด 1 6 พ.ค. 2555 ซาลปกครองสูงสุ ทีธนาคาร... --- PAGE 14 --- ๑๔ ที่ธนาคารให้ความเห็นชอบสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปรากฏรายชื่อของผู้ฟ้องคดีอยู่ในลำดับที่ ๑๘ ของรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ด้วย ต่อมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือ ที่ ธปท.ง.(ว) ๒๖๒๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๑ แจ้งยกเลิกการ ประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ และกำหนดให้ บรรดาบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ประสงค์ว่าจ้างผู้ตีราคาอสังหาริมทรัพย์ ให้ว่าจ้างบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แทน การที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ฟ้องคดีเป็นจำเลย ในคดีอาญาข้อหาร่วมกับบุคคลอื่นกระทำการยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) นั้น เป็นมูลเบื้องต้นที่ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีเริ่มดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดี จนนำไปสู่การสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดี เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ถูกฟ้องคดีไม่เคยวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับความสุจริตหรือไม่สุจริต ของผู้ฟ้องคดี เพียงพิจารณาประเมินว่าผู้ฟ้องคดีมีมาตรฐานการทำงานที่ดีสมควรได้รับการยอมรับ และไว้วางใจให้งานของผู้ฟ้องคดีถูกนำมาใช้เผยแพร่เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้ลงทุน ในตลาดทุนได้หรือไม่ โดยพิจารณาจากวิธีการและเหตุผลที่ผู้ฟ้องคดีได้ใช้ในการประเมิน ราคาที่ดินแปลงที่มีปัญหาดังกล่าวว่าเป็นไปตามหลักวิชาการและมีความสมเหตุผลอย่างไร และอาศัยปัจจัยใดบ้าง แต่คำชี้แจงของผู้ฟ้องคดีเพียงกล่าวอ้างว่า ผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติงาน ประเมินตามวิธีการและขั้นตอนตามมาตรฐานวิชาชีพแล้ว โดยคำชี้แจงส่วนใหญ่ของผู้ฟ้องคดี เป็นไปในเชิงโต้แย้งว่าข้อมูลเปรียบเทียบที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์นำมาใช้ไม่เหมาะสม แต่ผู้ฟ้องคดีไม่เคยนำเสนอข้อมูลใดที่มีน้ำหนัก สนับสนุนว่าผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่ดีจริง และรายงานการประเมินได้แสดงผล ของการประเมินที่สมเหตุผลแล้ว เมื่อกรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในงาน ที่เป็นวิชาชีพเฉพาะ การพิสูจน์ว่างานดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ มีความสมเหตุสมผล และมีความน่าเชื่อถือ ควรกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นเจ้าของนั้นเอง โดยควรเป็นการพิสูจน์เพื่อยืนยันความถูกต้องและน่าเชื่อถือของผลงานของตนเอง มิใช่เพียงการ โต้แย้งความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ถูกใช้เพื่อการเปรียบเทียบเท่านั้น การที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า ข่าวสารบางชนิดอาจทำให้ราคาที่ดินเปลี่ยนแปลงไป อาทิเช่น ข่าวโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ว่ามีแนวโน้มจะไปพัฒนาท้องถิ่นใด ทำให้ที่ดินในท้องถิ่นนั้นมีราคาสูงขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีความ แน่นอนว่าจะเป็นจริงหรือไม่ และเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ฟ้องคดีได้ยกขึ้นใหม่ในชั้นนี้โดยมิได้เคย ยกขึ้นแสดงต่อผู้ถูกฟ้องคดีในชั้นพิจารณาอุทธรณ์ จึงมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการรับฟัง ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ชาลปกครองสูงสุ ข้อเท็จจริง... --- PAGE 15 --- ๑๕. ข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยเหตุผลสองประการ กล่าวคือ ไม่มีหลักฐานยืนยันถึงความมีอยู่ของ ข้อเท็จจริงดังกล่าว และหากผู้ฟ้องคดีได้อาศัยข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นปัจจัยหนึ่งในการ ประเมินราคาที่ดินผืนดังกล่าวจริง ผู้ฟ้องคดีคงจะได้ยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นอ้างต่อสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ถูกฟ้องคดีตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในส่วนที่ว่าด้วยการ คุ้มครองสิทธิประชาชนให้มีเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพหรือประกอบอาชีพแข่งขันกัน โดยเสรีและเป็นธรรม เนื่องจากบุคคลสามารถประกอบวิชาชีพประเมินราคาทรัพย์สินได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถูกฟ้องคดี การให้ความเห็นชอบดังกล่าวเป็นเพียง เครื่องมือที่ใช้แสดงว่าบุคคลที่ผู้ถูกฟ้องคดีให้ความเห็นชอบมีมาตรฐานการประกอบวิชาชีพที่ดี และมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ผลงานของบุคคลดังกล่าวจึงสามารถนำมาใช้อ้างอิงในเอกสาร ที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต้องยื่นหรือนำส่งต่อผู้ถูกฟ้องคดี เทียบเคียงได้กับแนวปฏิบัติ ในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐในส่วนที่มีการประกาศรายชื่อผู้ทิ้งงานตามสัญญาซื้อ หรือสัญญาจ้างงาน ซึ่งจะทำให้หน่วยงานภาครัฐแห่งอื่นไม่ติดต่อทำนิติกรรมกับบุคคลที่มี รายชื่ออยู่ในบัญชีผู้ทิ้งงานด้วยเช่นกัน แต่ก็มิได้หมายความว่าผู้ทิ้งงานจะไม่สามารถประกอบ อาชีพนั้นได้อีกต่อไป ดังนั้น จึงมีความแตกต่างระหว่างการถูกจำกัดการประกอบอาชีพและการ ได้รับว่าจ้างให้ประกอบอาชีพ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่าการดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีจะอยู่ใน ความหมายของถ้อยคำในกรณีหลัง ผู้ถูกฟ้องคดีไม่เคยสันนิษฐานว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำ ท ความผิดอาญาหรือปฏิบัติต่อผู้ฟ้องคดีเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดอาญาตามที่ถูกพนักงาน อัยการสั่งฟ้อง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นเพียงการ พิจารณาถึงความเหมาะสม ความน่าเชื่อถือ และความน่าไว้วางใจในการยอมรับข้อมูลการ ประเมินราคาทรัพย์สินที่ผู้ฟ้องคดีจัดทำขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ก้าวล่วงไปพิจารณาว่าผู้ฟ้องคดี กระทำความผิดอาญาหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีมีหลักการพิจารณาที่แตกต่าง จากการพิจารณาองค์ประกอบความผิดทางอาญาโดยสิ้นเชิง โดยผู้ถูกฟ้องคดีได้ให้ความสำคัญ กับรายงานการประเมินของผู้ฟ้องคดี และเห็นว่ารายงานดังกล่าวขาดข้อมูลในสาระสำคัญหลายส่วน ซึ่งผู้ฟ้องคดีไม่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นหลักวิชาการแสดงที่มาของข้อมูล และความสมเหตุสมผล ของบทสรุปตามรายงานการประเมินดังกล่าว จึงมีน้ำหนักให้เชื่อว่าผู้ฟ้องคดีขาดความเหมาะสม ที่จะเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์สาธารณะตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๓ ของประกาศสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบ ศาลปกครองสูงสุด 1 6 อ.ศ. 2555 ซาลปกครองสูงสุด ผู้ประเมินราคา... --- PAGE 16 --- ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นด้วยว่า เป็นหน้าที่ของผู้ใช้รายงานการประเมินราคาที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง กับวัตถุประสงค์ของการใช้รายงานดังกล่าว ไม่ว่าจะเพื่อการให้สินเชื่อหรือเพื่อการลงทุน หรือเพื่อการอื่นใด แต่ไม่ว่าวัตถุประสงค์ของการใช้รายงานการประเมินราคาจะเป็นอย่างไรก็ตาม สาระที่สำคัญที่สุดต่อผู้ใช้รายงานทุกคนที่เหมือนกันก็คือ รายงานดังกล่าวต้องจัดทำโดยผ่าน กระบวนการปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่ดีทางวิชาชีพและสามารถเชื่อถือได้ และโดยผู้ประกอบ วิชาชีพที่มีความเหมาะสมและความน่าเชื่อถือในการทำงานที่สาธารณชนให้ความไว้วางใจ ศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่ พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีมีหนังสือลงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๘ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้กล่าวโทษผู้ฟ้องคดีต่อพนักงาน สอบสวนกรณีผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินและมีการนำเอกสารการประเมินดังกล่าว ไปใช้กระทำความผิด และพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ฟ้องคดีเป็นจำเลยต่อศาลยุติธรรม รวม 5 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ ๕๑๗๓/๒๕๔๐ หมายเลขดำที่ ๑๐๖๖๑/๒๕๔๓ และหมายเลขดำ ที่ ๔๕๗๑/๒๕๕๔ ของศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ ๑๐๗๖๕/๒๕๔๒ หมายเลขดำ ที่ ๖๒๐๖/๒๕๔๓ และหมายเลขดำที่ ๔๐๑/๒๕๔๖ ของศาลอาญา ผู้ถูกฟ้องคดีมิใช่คู่ความ ในคดีดังกล่าว จึงไม่ทราบผลการพิจารณาคดี ๑ ๑ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๘ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลว่า พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ฟ้องคดีเป็นจำเลยต่อศาล รวม 5 คดี สอดคล้องกับคำชี้แจง ของผู้ถูกฟ้องคดี ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาแล้ว ๑ คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ ๕๑๗๗/๒๕๔๐ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๒๑๕/๒๕๕๘ โดยพิพากษาลงโทษนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ จำเลยที่ นางสาวสุนันทา หาญวรเกียรติ จำเลยที่ ๒ และบริษัท สมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด จำเลยที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ มาตรา ๓๕๓ มาตรา ๓๕๔ และพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔ มาตรา ๓๐๗ มาตรา ๓๐๘ มาตรา ๓๑๑ มาตรา ๓๑๓ มาตรา ๓๑๕ และยกฟ้องผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นจำเลยที่ ๓ นายไพโรจน์ ซึ่งศิลป์ (กรรมการบริษัทผู้ฟ้องคดี) จำเลยที่ ๔ และนายวีรชัย คงแก้ว (พนักงานประเมินหลักทรัพย์ ของผู้ฟ้องคดี) จำเลยที่ ๕ โดยศาลให้เหตุผลว่า จำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๕ ได้ความ จากพันตำรวจโท พัชระ จันทบาล พนักงานสอบสวนว่า ดำเนินคดีจำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ 4 เนื่องจากประเมินราคาที่ดินสูงกว่าความเป็นจริงและประเมินแปลงไม่ถูกต้อง และจากการสอบสวน จำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ 4 จะได้รับค่าตอบแทนจากการประเมิน ๓๐,000 บาทเศษ และไม่พบหลักฐานว่า ๔ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 **าลปกครองสูงสุด - ๕ /จำเลยที่ ๓... --- PAGE 17 --- ๑๗ จำเลยที่ ๓ กับจำเลยที่ 4 จะได้รับค่าตอบแทนทางอื่นอีก ส่วนจำเลยที่ 4 ก็ไม่มีชื่อเป็นกรรมการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 5 เมื่อจำเลยที่ ๕ ประเมินแล้ว ได้นำเสนอหัวหน้า และได้ความ จากการนำสืบของฝ่ายโจทก์และจำเลยทั้งหกว่า ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจดี แต่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และปรากฏว่าช่วงนี้มีการตรวจสอบการ ประเมินราคาที่ดินที่เป็นมูลเหตุของคดีนี้ได้กระทำหลังจากจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ 4 ดำเนินการประเมินราคาประมาณ ๒ ปี วัตถุประสงค์การว่าจ้างของผู้ว่าจ้างก็เพื่อประโยชน์ภายใน ของผู้ว่าจ้างเอง ดังนั้น พฤติการณ์ของจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ ๕ ตามที่ ฝ่ายโจทก์นำสืบจึงยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่า จำเลยทั้งสามจะได้รู้ถึงเจตนาของจำเลยที่ ๒ ที่จะนำที่ดินประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากโจทก์ร่วมดังฟ้อง และฟังไม่ได้ว่ามีการกระทำเพื่อสนับสนุนในการกระทำความผิดกับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 ดังกล่าวด้วย ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างพนักงานอัยการโจทก์ขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า คำสั่ง ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้ว่า ก่อนที่สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญากับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กับพวก ซึ่งมีผู้ฟ้องคดีร่วมอยู่ด้วย จำนวน 5 คดี ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) โดยผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่มีการนำไปเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจาก ธนาคารสูงเกินความเป็นจริง พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ฟ้องคดีในข้อหาสนับสนุน หรือร่วมกันยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) โดยมีคำสั่งฟ้อง ก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะมีคำสั่งพักการให้ ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจำนวน ๒ คดี และมีคำสั่งฟ้องภายหลัง สํานักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ ดังกล่าวแล้วจำนวน ๔ คดี ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาแล้วจำนวน ๑ คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ ๕๑๗๓/๒๕๔๐ รวมการพิจารณากับคดีหมายเลขดำที่ ๗๓๐๔/๒๕๔๐ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๒๑๕/๒๕๔๘ และหมายเลขแดงที่ ๒๑๖/๒๕๕๘ โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 5 คน ผู้ฟ้องคดี เป็นจำเลยที่ ๒ ตามคำฟ้องได้บรรยายการกระทำความผิดของจำเลยที่ ๓ (ผู้ฟ้องคดี) ว่า ร่วมกับจำเลยที่ 4 จำเลยที่ ๕ และจำเลยที่ 5 ประเมินราคาที่ดินของจำเลยที่ 5 ซึ่งจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 นำมาใช้เป็นหลักประกันการขอกู้เงินตามฟ้อง "รวม ๑๖ แปลง ที่จังหวัดสระแก้ว ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุ /ในราคาสูง.... --- PAGE 18 --- 9 ๑๘ ៣ ในราคาสูงถึง ๔๒๖,000,000 บาท แต่ราคาประเมินที่แท้จริงของที่ดินทั้ง ๑๖ แปลง มีราคาไม่เกิน ๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท การประเมินราคาที่ดินดังกล่าวสูงกว่าความเป็นจริงถึง ๑๕ เท่า คดีนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 มีความผิดตามฟ้อง และยกฟ้องจำเลยที่ ๓ (ผู้ฟ้องคดี) จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ 4 โดยให้เหตุผลกรณียกฟ้องจำเลย ๕ ที่ ๓ จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 4 ว่า ได้ความจากพนักงานสอบสวนว่า ดำเนินคดีแก่จำเลยที่ และจำเลยที่ ๔ เนื่องจากประเมินราคาที่ดินสูงกว่าความเป็นจริงและประเมินแปลงไม่ถูกต้อง และจากการสอบสวนจำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ 4 ได้ค่าตอบแทนจากการประเมิน ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ และไม่พบหลักฐานว่าจำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ ๔ จะได้รับค่าตอบแทนทางอื่นอีก ส่วนจำเลยที่ 4 ก็ไม่มีชื่อเป็นกรรมการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 5 และได้ความจากทางนำสืบของฝ่ายโจทก์ และจำเลยทั้งหกว่า ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจดี แต่ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๘ และปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และปรากฏว่าช่วงที่มีการตรวจสอบการประเมินราคาที่ดิน ที่เป็นมูลเหตุของคดีนี้ได้กระทำหลังจากจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๕ ดำเนินการ ประเมินราคาประมาณ ๒ ปี วัตถุประสงค์การว่าจ้างของผู้ว่าจ้างก็เพื่อประโยชน์ภายในของ ผู้ว่าจ้างเอง ดังนั้น พฤติการณ์ของจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๕ ตามที่ฝ่ายโจทก์นำสืบ จึงยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่า จำเลยทั้งสามจะได้รู้ถึงเจตนาของจำเลยที่ 5 ที่จะนำที่ดิน ที่ประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากโจทก์ร่วมดังฟ้อง และฟังไม่ได้ว่า มีการกระทำเพื่อสนับสนุนในการกระทำผิดกับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 ดังฟ้องด้วย ซึ่งจากเหตุผลคำพิพากษาในส่วนที่ยกฟ้องจำเลยที่ ๓ (ผู้ฟ้องคดี) มิได้ให้เหตุผลว่าผู้ฟ้องคดี ได้ประเมินราคาทรัพย์สินโดยถูกต้องเหมาะสมเป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินแล้ว แต่เพราะศาลเห็นว่า พฤติการณ์ที่ฝ่ายโจทก์นำสืบยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่า ผู้ฟ้องคดีจะได้รู้ถึงเจตนา ของจำเลยที่ 5 ที่จะนำที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อ จากโจทก์ร่วมดังฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่ององค์ประกอบความผิดทางคดีอาญาฐานยักยอกทรัพย์ ที่ผู้กระทำผิดจะต้องมีเจตนาร่วมยักยอกทรัพย์ดังกล่าวด้วย หรือมีเจตนาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ การกระทำผิดดังกล่าว ซึ่งคดีนี้ธนาคารโจทก์ร่วมได้รับความเสียหายจากกรณีจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 ร่วมกันยักยอกทรัพย์ เนื่องจากใช้หลักทรัพย์ที่ผู้ฟ้องคดีกับพวกร่วมกัน ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นเงินถึง ๓๕๓,๓๖๓,๙๖๖ บาท หากการประเมินราคาทรัพย์สิน ของผู้ฟ้องคดีมีความถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน ก็ไม่น่าจะเกิด ความเสียหายแก่ธนาคารโจทก์ร่วมมากเช่นนี้ เนื่องจากหากที่ดินที่นำมาเป็นหลักประกัน การขอสินเชื่อมีราคาสูงตามความเป็นจริง ธนาคารโจทก์ร่วมก็สามารถบังคับเอาจากหลักประกัน ดังกล่าวได้ราคาเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้เงินกู้ยืมได้ ก็จะไม่เกิดความเสียหายแก่ธนาคารโจทก์ร่วม ศาลปกครองสูงสุด 16 ธ.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุน /หรือเกิดความ... --- PAGE 19 --- หรือเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงพอฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีประเมินราคาที่ดินดังกล่าว โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบอาชีพ และผู้ฟ้องคดีเคยให้ถ้อยคำชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ผู้ฟ้องคดีประเมินราคา ทรัพย์สินดังกล่าวโดยเร่งด่วนตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง วิธีการประเมินจึงเพียงแต่สอบถาม ราคาซื้อขายที่ดินบริเวณใกล้เคียงโดยมิได้สอบถามราคาประเมินของทางราชการ ประกอบ กับเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๓๙ ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยมีหนังสือแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาที่ดินบางรายผิดความเป็นจริงไปมาก โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผล ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อ บริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ จึงเห็นได้ว่า พฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดี ได้มีการประเมินราคาทรัพย์สินโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อใช้ประโยชน์ในตลาดทุนและการซื้อขายหลักทรัพย์จะต้อง มีมาตรฐานเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สาธารณชนประกอบการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ การประเมินราคาทรัพย์สินโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่เหมาะสม ไม่สามารถดำรงลักษณะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของผู้ขอเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน และมีลักษณะร้ายแรง จึงเป็นเหตุที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จะมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินได้ตามข้อ ๙ ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ การที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีคำสั่งให้พักการให้ความ เห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ เป็นต้น ไปจนกว่าจะครบอายุการให้ความเห็นชอบ จึงเป็นคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และการที่ ผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งยืนตามคำสั่ง ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าว คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีจึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นการวินิจฉัยว่าผู้ฟ้องคดี มีความผิดก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดและเป็นการห้ามผู้ฟ้องคดีประกอบอาชีพ จึงขัดต่อ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๓ และมาตรา ๕๐ นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้ว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดี ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 มาลปกครองสูงสุ /เป็นผู้ประเมิน... --- PAGE 20 --- ๒๐ เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นการกระทำในทางปกครอง มิใช่เป็นการกระทำในคดีอาญา คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อมาตรา ๓๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกคำสั่งดังกล่าวโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งบัญญัติให้ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจกำกับดูแล ในเรื่องหลักทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ การออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อประชาชน อำนาจดังกล่าวให้รวมถึงการออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนด ตามพระราชบัญญัตินี้ การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกระเบียบกำหนดให้การประกอบวิชาชีพประเมิน ราคาทรัพย์สินเกี่ยวกับตลาดทุนและการซื้อขายหลักทรัพย์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน การประกอบวิชาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาทรัพย์สิน โดยถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อขายหลักทรัพย์ อันเป็นการจัดระเบียบ การประกอบวิชาชีพและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค จึงเป็นกรณีผู้ถูกฟ้องคดีตัดสิทธิของ ผู้ฟ้องคดีโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะ เพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบ การประกอบวิชาชีพและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ถูกฟ้องคดีจึงสามารถออกคำสั่งตัดสิทธิ ของผู้ฟ้องคดีได้ตามมาตรา ๕๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้อโต้แย้ง ของผู้ฟ้องคดีจึงฟังไม่ขึ้น ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ไม่เห็นพ้องด้วยที่ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยในกรณีที่ ผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินคดีอาญาซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ ๒๑๖/๒๕๕๘ ให้ยกฟ้องผู้ฟ้องคดี โดยศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่า จากเหตุผลในคำพิพากษา ของศาลอาญากรุงเทพใต้มิได้ให้เหตุผลว่าผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาทรัพย์สินโดยถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน แต่เพราะศาลเห็นว่า พฤติการณ์ที่ฝ่ายโจทก์ นำสืบยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่า ผู้ฟ้องคดีจะได้รู้ถึงเจตนาของจำเลยที่ 5 ที่จะนำที่ดินที่ผู้ฟ้องคดี ประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากโจทก์ร่วมดังฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่ององค์ประกอบความผิดทางคดีอาญาฐานยักยอกทรัพย์ที่ผู้กระทำผิดจะต้องมีเจตนา ร่วมยักยอกทรัพย์ดังกล่าวด้วย หรือมีเจตนาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือการกระทำผิดดังกล่าว ซึ่งคดีนี้ธนาคารโจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีการใช้หลักทรัพย์ที่ผู้ฟ้องคดีกับพวก ร่วมกันประเมินราคาทรัพย์สินเป็นเงินถึง ๓๕๓,๓๖๓,๔๖๖ บาท หากการประเมินราคาทรัพย์สิน ของผู้ฟ้องคดีมีความถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน ก็ไม่น่าจะเกิด ความเสียหายแก่ธนาคารโจทก์ร่วมมากเช่นนี้ เนื่องจากหากที่ดินที่นำมาเป็นหลักประกันการ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /ขอสินเชื่อ... --- PAGE 21 --- 3. "น ๒๑ ม ขอสินเชื่อมีราคาสูงตามความเป็นจริง ธนาคารโจทก์ร่วมก็สามารถบังคับเอาจากหลักประกันดังกล่าว ได้ราคาเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้เงินกู้ยืมได้ ก็จะไม่เกิดความเสียหายแก่ธนาคารโจทก์ร่วม หรือเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงพอฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีประเมินราคาที่ดินดังกล่าว โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบอาชีพ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ในเมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องผู้ฟ้องคดีโดยให้เหตุผลที่ยกฟ้องว่า จากการสอบสวนผู้ฟ้องคดีได้ค่าตอบแทน จากการประเมิน ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ และไม่พบหลักฐานว่าผู้ฟ้องคดีจะได้รับค่าตอบแทน จากการประเมินทางอื่นอีก และได้ความจากทางนำสืบของฝ่ายโจทก์และจำเลยทั้งหกว่า ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจดี แต่ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๘ และปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และปรากฏว่าช่วงที่มีการตรวจสอบการประเมินราคาที่ดินที่เป็นมูลเหตุ ของคดีนี้ได้กระทำหลังจากที่จำเลยที่ ๓ (ผู้ฟ้องคดี) จำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ 4 ดำเนินการ ๔ ๕ ประเมินราคาประมาณ ๒ ปี วัตถุประสงค์การว่าจ้างของผู้ว่าจ้างก็เพื่อประโยชน์ภายในของ ผู้ว่าจ้างเอง ดังนั้น พฤติการณ์ของจำเลยที่ ๓ (ผู้ฟ้องคดี) จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 4 ตามที่ ฝ่ายโจทก์นำสืบจึงยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่าจำเลยทั้งสามจะได้รู้ถึงเจตนาของจำเลยที่ ที่จะนำที่ดินที่ประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากโจทก์ร่วมดังฟ้อง และฟังไม่ได้ว่ามีการกระทำเพื่อสนับสนุนในการกระทำผิดกับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ 5 ดังฟ้อง ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัญญัติว่า ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมี 5 คำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็น ผู้กระทำความผิดมิได้ กรณีผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินคดีอาญา ศาลชั้นต้นยังมิได้ตัดสินว่าผู้ฟ้องคดี เป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น คำสั่งพักการให้ความ เห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิ์ ของผู้ฟ้องคดีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กรณีกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีประเมินราคาหลักประกันที่นำมาใช้เป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) สูงกว่าราคาปกติ โดยเทียบเคียงกับบริษัทอื่นซึ่งทำการประเมินภายหลังจากที่ผู้ฟ้องคดีได้ทำรายงาน การประเมินไว้แล้วถึง ๒ ปีเศษ และนำเอาราคาประเมินกลางของสำนักงานที่ดินที่ใช้ใน การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมาเทียบเคียง โดยที่ราคาประเมินกลาง ดังกล่าวไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการประเมินราคาทรัพย์สินในชิ้นงานเดียวกันได้ เพราะขัดต่อหลักวิชาการประเมินทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินต่างวัน เวลา ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม-เศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ศาลปกครองสูงสุด 1 6 01.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /นับแต่ธนาคาร... --- PAGE 22 --- ២២ นับแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคาร กรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) กรณีมีพฤติการณ์ร่วมกันยักยอกเงินของธนาคาร ดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เคยตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดีออกจากรายชื่อบริษัทประเมิน ราคาทรัพย์สินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินดังที่ ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้าง โดยเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตระยะหนึ่งแล้วเห็นชอบให้ผู้ฟ้องคดีเป็น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป โดยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ธนาคาร แห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปรากฏรายชื่อของผู้ฟ้องคดีอยู่ในลำดับที่ ๑๘ ด้วย เพียงแต่ต่อมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ที่ ธปท.ง. (2) ๒๖๒๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑ แจ้งยกเลิกการประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ และกำหนดให้บรรดาบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ประสงค์ว่าจ้างผู้ตีราคา อสังหาริมทรัพย์ให้ว่าจ้างบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แทน กรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีความเห็นว่า มีการนำรายงานการประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ไม่ได้จัดทำเพื่อการขอสินเชื่อธนาคารไปใช้ในการขอสินเชื่อนั้น ผู้ฟ้องคดีได้ชี้แจงแสดง หลักฐาน วิธีการและขั้นตอนในการประเมินราคาทรัพย์สินต่อผู้ถูกฟ้องคดีแล้วว่า ผู้ฟ้องคดี ได้กระทำการไปโดยสุจริตอยู่บนพื้นฐานการใช้ความระมัดระวังเช่นบุคคลผู้มีวิชาชีพ เฉพาะพึงกระทำแล้วและโต้แย้งคัดค้านตลอดมาว่า ผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถนำเอาราคา ประเมินทรัพย์สินที่ได้ประเมินในระยะเวลาห่างกันถึง ๒ ปีเศษ มาเทียบเคียงและวินิจฉัยว่า การประเมินราคาทรัพย์สินครั้งใดถูกครั้งใดผิดได้ เพราะระยะเวลาในการประเมินราคาทรัพย์สิน จะสะท้อนให้เห็นมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินในวันและเวลาประเมินราคานั้นๆ การประเมินราคา ต่างวันเวลามีตัวแปรที่ทำให้ราคาประเมินแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ข่าวสารบางชนิด ก็อาจทำให้ราคาที่ดินเปลี่ยนแปลงไป อาทิเช่น ข่าวโครงการต่างๆ ของรัฐบาลว่ามีแนวโน้ม จะไปพัฒนาท้องถิ่นใด ทำให้ที่ดินในท้องถิ่นนั้นมีราคาสูงขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีความแน่นอน ที่จะเป็นจริงหรือไม่ ที่ดินแปลงที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาตั้งอยู่ติดทางหลวงหมายเลข ๓๓๔ (ถนนสุวรรณศร) ตอนกบินทร์บุรี – อรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (สระแก้ว) ซึ่งขณะผู้ฟ้องคดี ประเมินราคานั้น อยู่ในช่วงที่มีการซื้อขายที่ดินมาก เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการเปิดชายแดน ด้านอำเภออรัญประเทศสู่ประเทศกัมพูชา ทั้งยังประกาศเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีเหตุผลอยู่ในตัวว่า ขณะประเมินราคานั้น ภาวะของการซื้อขายที่ดินเป็นอย่างไร การประเมินราคาที่ดินของผู้ฟ้องคดีได้สะท้อนมูลค่าตลาดที่แท้จริง ณ เวลาประเมินถูกต้องแล้ว ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด การที่... --- PAGE 23 --- ២៣ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีนำข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่มีผู้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ระบุว่า โดยเฉลี่ยราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์ จะสูงกว่าราคาประเมินของทางราชการประมาณร้อยละ ๓๕ โดยผู้ถูกฟ้องคดีนำเอาข้อมูลดังกล่าว มาเปรียบเทียบกับราคาประเมินที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาเอาไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ผู้ฟ้องคดี ไม่เห็นพ้องด้วย เพราะข้อมูลตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างอิงนั้นเป็นข้อมูลที่เลื่อนลอยไม่ได้จัดทำอยู่บน พื้นฐานในหลักวิชาการประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ฟ้องคดีเคยชี้แจงต่อผู้ถูกฟ้องคดีว่า ผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดี มิได้มีส่วนเข้าไปร่วมทุจริตกับบุคคลหนึ่งบุคคลใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวหา เพราะการนำหลักฐานการประเมินไปใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อจากธนาคารนั้น ไม่ทราบเรื่องและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ผู้ฟ้องคดีมิได้ชี้แจงว่า การประเมินราคาทรัพย์สิน ต่างวัตถุประสงค์จะใช้การประเมินที่แตกต่างกัน สำหรับการใช้ดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดี เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้มีเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพหรือ การแข่งขันกันโดยเสรีและเป็นธรรม ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดียอมรับว่าผู้ใช้บริการประเมินราคา ทรัพย์สินมักเลือกใช้บริการของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การที่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายใด ถูกคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ จึงมีผลโดยตรงที่ผู้ใช้บริการจะนำไปเป็นข้อพิจารณา ในการจ้าง คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบจึงเป็นการจำกัดเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ แม้ผู้ฟ้องคดีจะถูกดำเนินคดีอาญา แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่อาจด่วนสรุปว่า พนักงานอัยการอาจมีหลักฐานที่จะแสดงให้เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดอาญา ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้รับรองว่า ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าบุคคลนั้น ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง แม้ผู้ถูกฟ้องคดีจะอ้างว่าการสั่งพักการให้ความเห็นชอบ การเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นคำสั่งทางปกครองซึ่งไม่เหมือนกับองค์ประกอบ ของความผิดทางอาญาก็ตาม หากผู้ถูกฟ้องคดีจะรอฟังผลในคดีอาญาเสียก่อน ก็จะเป็นการ ใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจสั่งพักการเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินกรณี ผู้ประเมินราคาประกอบวิชาชีพโดยขาดจรรยาบรรณ ไม่สุจริต ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อสาธารณชน แต่ผู้ฟ้องคดีมิได้กระทำเหตุดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีจึงไม่มีเหตุสั่งพักการให้ ความเห็นชอบดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศิลปกครองสูงสุด ด้วยเหตุผล... --- PAGE 24 --- ๒๔ ด้วยเหตุผลตามคำอุทธรณ์ข้างต้น ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองสูงสุด มีคําพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น และพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถูกฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า ประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัญญัติว่า ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ และโต้แย้งว่าแม้ผู้ถูกฟ้องคดีจะอ้างว่า การสั่งพักการให้ความเห็นชอบการเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งไม่เหมือนกับองค์ประกอบความผิดทางอาญาก็ตาม หากผู้ถูกฟ้องคดีจะรอฟังผล ในคดีอาญาเสียก่อนจะเป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า องค์ประกอบในการพิจารณาสั่งพักการให้ความเห็นชอบตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ แตกต่างจากองค์ประกอบการ พิจารณาความผิดในทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงเห็นว่าการพิจารณาเกี่ยวกับ การสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นการพิจารณาในทางปกครอง ที่แยกได้เป็นอิสระจากการพิจารณาความผิดทางอาญา และสามารถกระทำได้โดยไม่จำต้อง รอให้คดีอาญาถึงที่สุด อีกทั้งผลการพิจารณาในทางปกครองก็อาจแตกต่างจากผลการพิจารณา ในคดีอาญาได้ นอกจากนี้ กรณีที่ผู้ฟ้องคดีถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญานั้น เป็นเพียงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ใช้ในการพิจารณาชั่งน้ำหนักเพื่อการ สั่งการ และไม่มีขั้นตอนใดของการพิจารณาที่ผู้ถูกฟ้องคดีก้าวล่วงไปสันนิษฐานว่าผู้ฟ้องคดี เป็นผู้กระทำผิดทางอาญาแล้ว หรือปฏิบัติต่อผู้ฟ้องคดีเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดทางอาญา ดังที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งแต่อย่างใด ส่วนในประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีสั่งพักการให้ความ เห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นการขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้มีเสรีภาพในการ ประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม นั้น ผู้ถูกฟ้องคดี เห็นว่า มาตรการให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สินกำหนดขึ้นเพื่อประโยชน์สำหรับ กรณีที่จะมีการนำข้อมูลของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินมาเปิดเผยในตลาดทุนเท่านั้น โดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในการรักษาความเชื่อมั่นของการลงทุนในตลาดทุน และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ลงทุน ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด ในหลักทรัพย์... --- PAGE 25 --- www. ๒๕ ในหลักทรัพย์ ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบดังกล่าวมิใช่เป็นกฎเกณฑ์ที่จำกัดหรือห้ามการ ประกอบวิชาชีพของบุคคลใด ๆ ประชาชนทุกคนยังมีอิสระในการประกอบวิชาชีพเป็น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากการประเมินราคา ทรัพย์สินนั้นมิได้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตลาดทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์ภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ สำหรับกรณีที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่าผู้ใช้บริการประเมินราคาทรัพย์สินมักเลือกใช้ บริการของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การที่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายใดถูกคำสั่งพักการให้ความ เห็นชอบ จึงมีผลโดยตรงที่ผู้ใช้บริการจะนำไปเป็นข้อพิจารณาในการจ้างนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การเลือกใช้บริการทางวิชาชีพของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ เป็นนิติสัมพันธ์ ระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจดำเนินการใดๆ ของผู้ถูกฟ้องคดี และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การที่มีผู้ใช้บริการบางราย ประสงค์จะว่าจ้างผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เฉพาะรายที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานฯ ในการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่มิใช่วัตถุประสงค์สาธารณะและ จะไม่ว่าจ้างผู้ประเมินราคาทรัพย์สินรายที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานฯ ก็เป็นเรื่อง ที่อยู่นอกเหนืออำนาจดำเนินการใดๆ ของผู้ถูกฟ้องคดีและสำนักงานฯ ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์โต้แย้งเกี่ยวกับความเหมาะสมของการประเมิน และการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าการประเมินราคาที่ดิน ของผู้ฟ้องคดีได้สะท้อนมูลค่าตลาดที่แท้จริง ณ เวลาประเมินถูกต้องตามหลักวิชาการประเมิน ราคาทรัพย์สินแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถนำการประเมินราคาหลักประกันที่ผู้ฟ้องคดี นำมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) มาเทียบเคียงกับบริษัทอื่นซึ่งทำการประเมินภายหลังจากผู้ฟ้องคดีได้ทำรายงานการประเมิน ไว้แล้วถึงสองปีเศษ และผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถนำเอาราคาประเมินกลางของสำนักงานที่ดิน มาเทียบเคียงกับประเมินราคาทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีได้เพราะขัดต่อหลักวิชาการประเมิน ราคาทรัพย์สิน และข้อมูลที่ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างอิงเป็นข้อมูลที่เลื่อนลอย ไม่ได้จัดทำอยู่บน พื้นฐานของหลักวิชาการประเมินราคาทรัพย์สิน และในส่วนที่ผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินคดีอาญานั้น ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าในทางสืบสวนและสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ ไม่เคยมีหลักฐานว่า ศาลปกครองสูงสุด 16 ธ.ค. 2555 "วัดปกครองสูงสุด /ผู้ฟ้องคดี... --- PAGE 26 --- ២៦ ผู้ฟ้องคดีได้รับผลตอบแทนในทางทุจริต นอกจากค่าธรรมเนียมประเมินราคาตามปกติ นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า ตามรายงานการประเมินราคาทรัพย์สินฉบับที่เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดี ถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยในคดีแรกระบุว่า ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาทรัพย์สิน โดยใช้วิธีเปรียบเทียบมูลค่าทางตลาด ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่ารายงานการประเมินราคา ดังกล่าวยังขาดสาระสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้รายงานเข้าใจถึงหลักเกณฑ์วิธีการและเหตุผลในการ กำหนดราคาประเมินของผู้ฟ้องคดีว่ามีความน่าเชื่อถือ หรือมีความสมเหตุสมผลอย่างไร โดยพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง เช่น ลักษณะสำคัญและความคล้ายคลึงของทรัพย์สินที่ นำมาเปรียบเทียบ แหล่งที่มาของข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด และความสมเหตุสมผล ของการกำหนดราคาประเมินดังกล่าว ซึ่งข้อมูลข้างต้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อราคาที่ ผู้ฟ้องคดีประเมินมีความแตกต่างกับราคาประเมินของทางราชการถึงสิบเท่า แม้ผู้ฟ้องคดี จะโต้แย้งว่าราคาประเมินของทางราชการมีไว้เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม และมิได้สะท้อนมูลค่าตลาดที่แท้จริงก็ตาม แต่เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วราคา ประเมินของทางราชการเป็นข้อมูลที่เผยแพร่เป็นการทั่วไปต่อสาธารณชน ราคาประเมิน ของทางราชการจึงเป็นข้อมูลอ้างอิง (Benchmark) ที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับการประเมินราคา อสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรมในกรณีอื่นๆ และเมื่อราคาประเมินรายใด มีความแตกต่างจากราคาประเมินของทางราชการอย่างมาก หน้าที่ในการอธิบายอย่าง สมเหตุสมผลถึงที่มาของการกำหนดราคาดังกล่าว ย่อมตกอยู่แก่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น สำหรับคำชี้แจงของผู้ฟ้องคดีในชั้นพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ชี้แจงว่า การประเมินราคาไว้สูงกว่าราคาของ ทางราชการเป็นผลของการรวบรวมที่ดินแปลงย่อยหลายแปลงเป็นที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งที่ทำให้ที่ดินดังกล่าวมีทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ ทำให้ราคาประเมินสูงขึ้น สำนักงานฯ เห็นว่าการรวบรวมที่ดินแปลงย่อยเป็นที่ดินแปลงใหญ่เพียงเหตุเดียว ไม่มีน้ำหนักเพียง พอที่จะทำให้รับฟังได้ว่าการประเมินที่ดินดังกล่าวให้มีราคาสูงกว่าราคาประเมินของ ทางราชการถึงสิบเท่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ทั้งนี้ เพราะในการประเมินราคาที่ดิน แปลงเดียวกันนั้นโดยผู้ประเมินราคาอิสระอีกสองรายซึ่งทำการประเมินราคาที่ดิน แปลงดังกล่าวในลักษณะที่ดินแปลงใหญ่เช่นเดียวกัน ผู้ประเมินราคาทั้งสองรายดังกล่าว ล้วนกำหนดราคาประเมินไว้ต่ำกว่าราคาประเมินของผู้ฟ้องคดีอยู่ประมาณแปดถึงสิบเท่า ศาลปกครองสูงสุด 16 ส.ค. 2555 Cาลปกครองสูงสุด /แม้ผู้ฟ้องคดี... --- PAGE 27 --- น ๒๗ แม้ผู้ฟ้องคดีจะโต้แย้งว่าผู้ประเมินราคาอิสระรายอื่นที่ทำการประเมินในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นงานประเมินที่จัดทำหลังงานประเมินของผู้ฟ้องคดีถึงสองปีเศษ จึงมิใช่ราคาที่สามารถ จะนำมาใช้ในการเปรียบเทียบได้ แต่เนื่องจากในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๙ ราคาตลาดของที่ดินยังเป็นช่วงขาขึ้น โดยราคาตลาดของที่ดินเริ่มมีแนวโน้มลดลงในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ประกอบกับน่าเชื่อว่าราคาตลาดของที่ดินในแต่ละช่วงเวลาได้ซึมซับผลกระทบจากสภาพ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไว้แล้ว ดังนั้น การประเมินราคาที่ดินที่กระทำในภายหลัง แต่กระทำในระหว่างที่ราคาตลาดของที่ดินยังเป็นช่วงขาขึ้น จึงน่าจะมีราคาสูงกว่า หรือใกล้เคียงกับราคาประเมินที่กระทำในอดีต มิใช่ต่ำกว่าราคาประเมินในอดีตถึงประมาณ แปดถึงสิบเท่าดังกล่าว ในประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่า การประเมินราคาทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดี ได้กระทำตามหลักวิชาที่ยอมรับเป็นสากลทั่วโลก เป็นการกระทำตามวัตถุประสงค์ของ ผู้ฟ้องคดีโดยสุจริต นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีมิได้แสดงหลักฐานว่าการปฏิบัติงาน ประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์รายใดที่เป็นปัญหาได้ดำเนินการตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้แล้ว ทั้งนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การมีกฎระเบียบที่ได้มาตรฐานดังกล่าวมิใช่สิ่งที่จะยืนยันได้ว่า งานประเมินได้จัดทำตามมาตรฐานทางวิชาชีพที่กำหนดไว้แล้ว นอกจากนี้ การที่ผู้ฟ้องคดี เคยชี้แจงต่อผู้ถูกฟ้องคดีว่าผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาที่ดินในกรณีดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง ทำให้ผู้ฟ้องคดีมิได้มีการตรวจสอบราคาประเมินของทางราชการ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดี กลับเป็นข้อมูลที่แสดงว่าผู้ฟ้องคดีมิได้เคร่งครัด ต่อการปฏิบัติงานประเมินราคาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่าการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดี และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในการสั่งพักการให้ความ เห็นชอบผู้ฟ้องคดีได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน ตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นโดยยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดี โดยได้รับฟังสรุปข้อเท็จจริงของ ตุลาการเจ้าของสำนวน และคำชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี ศาลปกครองสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบธุรกิจหลัก โดยการรับทำการประเมินหรือวิเคราะห์ราคาหรือมูลค่าของทรัพย์สิน หรือสินทรัพย์ ศาลปกครองสูงสุด 1 6 ต.ค. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /ทางอุตสาหกรรม... --- PAGE 28 --- จ ๒๘ ทางอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมทุกชนิด รวมทั้งที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ตามวัตถุประสงค์ ที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ และเป็นผู้ได้รับการเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับ ๒๐ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตามนัยข้อ ๑ ของประกาศ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบ ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ โดยได้รับการเห็นชอบ ให้เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน รวม ๔ ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๓๘ ถึงวันที่ กันยายน ๒๕๓๙ ครั้งที่สองเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๐ ถึงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๑ ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๒ และครั้งที่สี่เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๒ และครั้งที่สี่เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ ถึงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ได้มีหนังสือ ที่ กลต. จ.๑๙๒๘/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ สั่งพักการ ให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ จนถึงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ด้วยเหตุผลว่า ผู้ฟ้องคดีมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการเป็น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๒ พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ฟ้องคดีจำนวน ๒ คดี ในข้อหาสนับสนุนผู้อื่นกระทำ การยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลเหตุจากการที่ ผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ถูกต้องเหมาะสม และมีคดีอยู่ระหว่าง การพิจารณาของพนักงานอัยการในข้อหาเดียวกันอีกจำนวน ๔ คดี ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ อุทธรณ์คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดี โดยเห็นว่าคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากขัด กับบทบัญญัติมาตรา ๓๓ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีแล้วมีมติยืนตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และได้แจ้งมติดังกล่าวให้ผู้ฟ้องคดีทราบตามหนังสือ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ทั้งในเรื่องการลงทุนในกิจการและชื่อเสียงของผู้ฟ้องคดี จึงมายื่นฟ้องต่อศาล ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีจึงได้ยื่นอุทธรณ์ คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่า คำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่คัดค้านคำพิพากษา ของศาลปกครองชั้นต้นมีเหตุผลรับฟังได้หรือไม่ การที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ในกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีประเมิน ราคาหลักประกันที่นำมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด ศาลปกครองสูงสุด 16 ส.ค. 2555 ชาลปกครองสูงสุด /(มหาชน)... --- PAGE 29 --- 2 ២៨ (มหาชน) สูงกว่าราคาปกติโดยเทียบเคียงกับบริษัทอื่นซึ่งทำการประเมินภายหลังจากผู้ฟ้องคดี ได้ทำรายงานการประเมินไว้แล้วถึง ๒ ปีเศษ นั้น ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ไม่สามารถนำราคาประเมิน ในภายหลังมาเปรียบเทียบได้เพราะการประเมินราคาทรัพย์สินต่างวัน เวลา ย่อมมีความ เปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคมและการเมือง และในกรณีที่ ผู้ถูกฟ้องคดีนำเอาราคาประเมินกลางของสำนักงานที่ดินที่ใช้ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมาเทียบเคียงนั้น ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าราคาประเมินดังกล่าว ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับราคาการประเมินราคาทรัพย์สินในชิ้นงานเดียวกันได้เพราะ ขัดต่อหลักวิชาการประเมินทรัพย์สิน การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์และผู้ถูกฟ้องคดีนำเอากรณีดังกล่าวมาเป็นเหตุในการพิจารณามีคำสั่ง พักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจึงเป็นการไม่ชอบ นั้น เห็นว่า คำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการโต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งของ ผู้ถูกฟ้องคดีในเรื่องมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นได้วินิจฉัยว่า หากผู้ฟ้องคดีประเมินราคาทรัพย์สินโดยถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคา ทรัพย์สิน ก็ไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนมาก เนื่องจากหากที่ดินที่นำมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อมีราคาสูงตามความ เป็นจริง ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ก็สามารถบังคับเอาจากหลักประกัน ดังกล่าวได้ราคาเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้เงินกู้ยืมได้ ก็จะไม่เกิดความเสียหายแก่ธนาคาร หรือเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงพอฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีประเมินราคาที่ดิน ดังกล่าวโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบอาชีพ และผู้ฟ้องคดีเคยให้ถ้อยคำชี้แจง ข้อเท็จจริงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ผู้ฟ้องคดี ประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าวโดยเร่งด่วนตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง วิธีการประเมิน จึงเพียงแต่สอบถามราคาซื้อขายที่ดินบริเวณใกล้เคียงโดยมิได้สอบถามราคาประเมินของทางราชการ แม้ตามคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีได้บรรยายเกี่ยวกับหลักการประเมินที่ดินว่า ไม่สามารถนำ ราคาประเมินในภายหลังมาเปรียบเทียบได้เพราะการประเมินราคาทรัพย์สินต่างวัน เวลา ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง หรือในกรณีที่ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถนำเอาราคาประเมินกลางของสำนักงานที่ดิน ที่ใช้ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมาเทียบเคียงกับ การประเมินราคาทรัพย์สินในชิ้นงานเดียวกันได้ เพราะขัดต่อหลักวิชาการประเมินทรัพย์สิน ก็ตาม แต่ผู้ฟ้องคดีมิได้โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลปกครองชั้นต้นว่าการประเมินราคาทรัพย์สิน ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ขาลปกครองสูงสุด /ของผู้ฟ้องคดี... --- PAGE 30 --- ! ๓๐ ของผู้ฟ้องคดีมิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนมากอย่างไร และไม่ได้โต้แย้งในกรณีที่ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดี เคยให้ถ้อยคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าวโดยเร่งด่วนตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง วิธีการ ประเมินจึงเพียงแต่สอบถามราคาซื้อขายที่ดินบริเวณใกล้เคียงโดยมิได้สอบถามราคาประเมิน ของทางราชการ จึงเท่ากับว่าผู้ฟ้องคดียอมรับว่าได้ประเมินราคาทรัพย์สินโดยวิธีการดังกล่าวจริง กรณีจึงฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ได้ใช้ข้อมูลที่ครบถ้วนในการประเมินราคาทรัพย์สินอันจะถือว่าได้ ดำเนินการตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน และปรากฏว่าได้มีการนำผลการประเมิน ราคาที่ดินของผู้ฟ้องคดีไปประกอบการขอสินเชื่อมีราคาสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งต่อมา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนมาก จากพฤติกรรมดังกล่าว จึงฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาทรัพย์สินโดยบกพร่อง ไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบอาชีพ ชอบที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะมีคำสั่งยืนตามคำสั่งพักการ ให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินตามข้อ ๔ ของประกาศสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมิน ราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ ดังนั้น ที่ศาลปกครองชั้นต้น วินิจฉัยว่าคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ยืนตามคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมิน ราคาทรัพย์สิน เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น จึงชอบแล้ว อุทธรณ์ข้อนี้ของผู้ฟ้องคดี ไม่อาจรับฟังได้ ในประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า นับแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) กรณีมีพฤติการณ์ ร่วมกันยักยอกเงินของธนาคารดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เคยตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดี ออกจากรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ เป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินดังที่ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้าง โดยเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตระยะหนึ่งแล้ว เห็นชอบให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป โดยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ธนาคารให้ความเห็นชอบสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปรากฏรายชื่อของผู้ฟ้องคดีอยู่ในลำดับที่ ๑๘ ด้วย เพียงแต่ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๑ แจ้งยกเลิกการประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ และกำหนดให้บรรดาบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ประสงค์ว่าจ้างผู้ดีราคา ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด /อสังหาริมทรัพย์... --- PAGE 31 --- ๓๑ อสังหาริมทรัพย์ให้ว่าจ้างบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แทน นั้น ในกรณีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือที่ ธปท. ก. ๒๐๘๘/๒๕๓๙ ลงวันที่ 4 สิงหาคม ๒๕๓๙ แจ้งไปยังเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า ผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาที่ดิน บางรายผิดจากความเป็นจริงมาก ธนาคารจึงได้ทักท้วง แต่ผู้ฟ้องคดีไม่สามารถอธิบายเหตุผล รวมทั้งมิได้ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ธนาคารจึงได้ตัดรายชื่อผู้ฟ้องคดี ออกจากรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ธนาคารให้ความเห็นชอบ ดังนั้น แม้ในเวลา ต่อมาจะปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อบริษัทประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ธนาคารให้ความเห็นชอบสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปรากฏรายชื่อของผู้ฟ้องคดีอยู่ในลำดับที่ ๑๘ ด้วยก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๓๙ มิได้ถูกลบล้างไปด้วย ผู้ถูกฟ้องคดีชอบที่จะนำพฤติกรรมของผู้ฟ้องคดีที่ปรากฏตามหนังสือดังกล่าว มาประกอบการใช้ดุลพินิจมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินได้ อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีในข้อนี้จึงไม่อาจรับฟังได้ ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ไม่เห็นพ้องด้วยที่ศาลปกครองชั้นต้น วินิจฉัยในกรณีที่ผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินคดีอาญาซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาในคดี หมายเลขแดงที่ ๒๑๖/๒๕๕๘ ให้ยกฟ้องผู้ฟ้องคดี โดยศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่า จากเหตุผลในคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้มิได้ให้เหตุผลว่าผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคา ทรัพย์สินโดยถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินแล้ว แต่เพราะศาลเห็นว่า พฤติการณ์ที่ฝ่ายโจทก์นำสืบยังฟังไม่ได้อย่างสนิทใจว่า ผู้ฟ้องคดีจะได้รู้ถึงเจตนา ของจำเลยที่ 5 ที่จะนำที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีประเมินราคาดังกล่าวไปใช้เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อ จากโจทก์ร่วมดังฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่ององค์ประกอบความผิดทางคดีอาญาฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งคดีนี้ธนาคารโจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีการใช้หลักทรัพย์ที่ผู้ฟ้องคดี กับพวกร่วมกันประเมินราคาทรัพย์สินเป็นเงินถึง ๓๕๓,๓๖๓,๙๖๖ บาท หากการประเมิน ราคาทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีมีความถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน ก็ไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ธนาคารโจทก์ร่วมมากเช่นนี้ จึงพอฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีประเมิน ราคาที่ดินดังกล่าวโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบอาชีพ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าในคดีดังกล่าว ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังมิได้ตัดสินว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น เห็นว่า การที่ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษายกฟ้อง ศาลปกครองสูงสุด 16 A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด ผู้ฟ้องคดี... น --- PAGE 32 --- ៣២ ผู้ฟ้องคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ นั้น เป็นการดำเนินการในกระบวนยุติธรรมทางอาญา ส่วนการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่มีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นเรื่องการพิจารณา ในทางปกครองที่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแตกต่างจากการดำเนินคดีอาญา และการพิจารณาคดีอาญาดังกล่าว เป็นเรื่องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาว่าการกระทำของผู้ฟ้องคดีครบองค์ประกอบความผิด ในข้อหาสนับสนุนหรือร่วมกันยักยอกทรัพย์หรือไม่ ส่วนการมีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินนั้น มีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า พฤติกรรมของผู้ฟ้องคดี เข้าลักษณะเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ ตามนัยข้อ ๓ ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ อจ. ๕/๒๕๓๘ หรือไม่ ซึ่งสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และผู้ถูกฟ้องคดีมีดุลพินิจรับฟังข้อเท็จจริง เท่าที่ปรากฏเพื่อพิจารณามีคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ได้โดยไม่จำต้องรอให้ผลการดำเนินคดีอาญาถึงที่สุดเสียก่อน นอกจากนั้น แม้ว่าผลการพิจารณา ของศาลอาญากรุงเทพใต้จะมีคำพิพากษายกฟ้องผู้ฟ้องคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ก็ตาม แต่คำพิพากษาดังกล่าวก็มิได้วินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีได้ประเมินราคาทรัพย์สินถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สินแต่อย่างใด ดังนั้น แม้ในคดีอาญา ศาลมิได้ มีคำพิพากษาว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็ไม่ทำให้คำสั่งพักการ ให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่ ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง อุทธรณ์ข้อนี้ของผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังได้ สำหรับประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ผู้ถูกฟ้องคดียอมรับว่าผู้ใช้บริการ ประเมินราคาทรัพย์สินมักเลือกใช้บริการของผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การที่ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน รายใดถูกคำสั่งพักการให้ความเห็นชอบจึงมีผลโดยตรงที่ผู้ใช้บริการจะนำไปเป็นข้อพิจารณา ในการจ้าง ดังนั้น คำสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจึงเป็น การจำกัดเสรีภาพในการประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามมาตรา ๕๐ ศาลปกครองสูงสุด 16 01.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุด ของรัฐธรรมนูญ... --- PAGE 33 --- ៣៣ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ นั้น เห็นว่า มาตรา ๕๐ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพ ในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม วรรคสอง บัญญัติว่า การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐหรือเศรษฐกิจ ของประเทศ การคุ้มครองประชาชนในด้านสาธารณูปโภค การรักษาความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การจัดระเบียบการประกอบวิชาชีพ การคุ้มครองผู้บริโภค การผังเมือง การรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม สวัสดิภาพของประชาชน หรือเพื่อป้องกันการผูกขาดหรือขจัดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้ว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นการออกคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งบัญญัติให้ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจกำกับดูแลในเรื่องหลักทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ การออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน อำนาจดังกล่าวให้รวมถึง การออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดตามพระราชบัญญัตินี้ การที่สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ถูกฟ้องคดี ได้ออกระเบียบกำหนดให้การประกอบวิชาชีพประเมินราคาทรัพย์สินเกี่ยวกับตลาดทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาทรัพย์สินโดยถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจในการ ซื้อขายหลักทรัพย์ อันเป็นการจัดระเบียบการประกอบวิชาชีพและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีคำสั่งพักการให้ความ เห็นชอบผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินจึงเป็นจำกัดสิทธิของผู้ฟ้องคดีโดยอาศัยอำนาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะ เพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบการประกอบวิชาชีพ และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค จึงไม่เป็นการขัดต่อมาตรา ๕๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ และการจำกัดสิทธิการประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าว เป็นการจำกัดสิทธิเฉพาะการประเมินราคาทรัพย์สินที่เกี่ยวกับตลาดทุนและการซื้อขายหลักทรัพย์ ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ถูกฟ้องคดีตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. ๑๓/๒๕๓๗ ที่ กจ. ๑๓/๒๕๓๙ และที่ กจ. ๔๐/๒๕๔๐ หากมิใช่ ศาลปกครองสูงสุด 16 H.A. 2555 ศาลปกครองสูงสุ /เป็นการประเมิน... 6' --- PAGE 34 --- ๓๔ เป็นการประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าวมาข้างต้น ผู้ฟ้องคดียังสามารถเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินได้ ตามปกติ อุทธรณ์ข้อนี้ของผู้ฟ้องคดีจึงไม่อาจรับฟังได้ เมื่ออุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีทุกข้อไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้ คำพิพากษา ของศาลปกครองชั้นต้นที่พิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าการที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งยืนตามคำสั่ง ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่สั่งพักการให้ความเห็นชอบ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงชอบแล้ว ม พิพากษายืน นายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด นายชาญชัย แสวงศักดิ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายมนูญ ปุญญกริยากร ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด Ae * ศาลปกครองสูงสุด ตุลาการเจ้าของสำนวนและ ตุลาการองค์คณะ ตุลาการผู้แถลงคดี : นายเกียรติภูมิ แสงศศิธร ศาลปกครองสูงสุด 16 HA 2555 ศาลปกครองสูงสุด คําเนาถูกต้อง 45. 21 มี.ค. 2555